คำปรารภจากใจผู้จัดโครงการ ประจำปี 2560 (2017) TH ERM Challenge ๒๐๑๗
ในปี 2016 ที่ผ่านมา นอกจากการจัดแข่งขันจะได้สร้างประสบการณ์ให้นักศึกษากลุ่มหนึ่ง และรวมไปถึงคณาจารย์บางส่วนได้เปิดใจในการสร้างแนวทาง Integrated Education การจัดการแข่งขัน กับการเดินทางไปยังหลายมหาวิทยาลัยเพื่อนำ Conceptual Class ไปสร้างประสบการณ์ให้กับนักศึกษา ผู้จัดการแข่งขันก็ได้รับประสบการณ์มากเช่นกัน จึงได้นำประสบการณ์นี้มาเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการแข่งขันในปี 2017 โดยวางอยู่บนหลักการสำคัญ 4 ประการ คือ
เปิดใจ เรียนรู้ ร่วมมือ และ พัฒนา
เปิดใจ เรียนรู้ ร่วมมือ และ พัฒนา
เปิดใจ เป็นหลักการที่ผู้จัดการแข่งขันต้องการนำเสนอไปยังสถาบันการศึกษาและคณาจารย์ เพราะปัญหาของการศึกษาไทยอยู่ที่ความรู้เชิงเดี่ยวที่แยกตัวออกจากกันอย่างชัดเจน จากประสบการณ์ของผู้จัดพบว่า นักศึกษานั้นมีปัญหาในการ “บูรณาการ” ความรู้ เข้าด้วยกัน เนื่องจากหลักสูตร รวมไปถึงเครื่องมือที่ไม่พร้อม การตีความว่าเป็นเพียงการแข่งขันโดยใช้เกมส์ธุรกิจ อาจเป็นการปิดโอกาสให้กับนักศึกษา
เรียนรู้ เป็น KPI ที่ผู้จัดการแข่งขันต้องการให้นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้รับประโยชน์ นักศึกษาไม่ได้เพียงเรียนรู้จากตัวเกมส์ และโจทย์อันหลากหลายในการแข่งขัน การที่นักศึกษาได้ทำผิด ทำพลาด ก็เป็นการเรียนรู้ และเป็นประสบการณ์ที่ดี การได้เข้าเห็นเพื่อนนักศึกษาจากสถาบันอื่น ในช่วงต่าง ๆ ของการแข่งขัน ก็เป็นกระบวนการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาตัวเอง ส่วน KPI ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน เช่น ผลการแพ้ชนะนั้น ควรใช้เป็นเครื่องเสริมแรงขับให้กับนักศึกษา
ร่วมมือ การแข่งขันนี้จะเกิดประสบผลสำเร็จได้จากการร่วมมือ ในปี 2016 ที่ผ่านมา หลายครั้งที่ผู้จัดจะต้องเดินทางไปในบางสถาบันมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งในเชิงการบริหารทรัพากรนั้นเป็นความสูญเสีย ทั้งเวลา และทุนทรัพย์ส่วนตัวของผู้จัด ในปี 2017 นี้ หากในสถาบันเดียวกัน ต่างคณะ ต่างสาขาวิชา จะได้ประสานความร่วมมือกันจะเป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่ง ในปี 2016 ผู้จัดการแข่งขันได้เห็นความร่วมมืออันดียิ่งระหว่างสถาบะนการศึกษาในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ที่หลาย
มหาวิทยาลัยร่วมมือกันและหลายภาควิชาร่วมมือกัน เพื่อประโยชน์ของนักศึกษา รวมไปถึงความร่วมมือที่มากขึ้นจากหน่วยงายภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย
พัฒนา ในมุมมองของผู้จัดการแข่งขัน เรามิอาจจะพัฒนาความรู้เพียงอย่างเดียว ยังมีหลายสิ่งที่นักศึกษาไทยจะต้องถูกพัฒนาบนความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย อาทิ การนำความรู้ไปใช้งาน ทักษะการคิดวิเคระห์, ทักษะด้านภาษา, ทักษะด้านการนำเสนอ ซึ่งทักษะที่เราไม่ได้เติมให้สุดความสามารถเหล่านี้ เป็นทักษะที่เราอ่อนด้อยที่สุดในภูมิภาคของเราเอง
การแข่งขัน Thailand ERM Challenge 2017 วางอยู่บนหลักการทั้ง 4 ดังที่กล่าวมาข้างต้น
ปรมินทร์ เยาว์ยืนยง, ผู้จัดการแข่งขัน
เรียนรู้ เป็น KPI ที่ผู้จัดการแข่งขันต้องการให้นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้รับประโยชน์ นักศึกษาไม่ได้เพียงเรียนรู้จากตัวเกมส์ และโจทย์อันหลากหลายในการแข่งขัน การที่นักศึกษาได้ทำผิด ทำพลาด ก็เป็นการเรียนรู้ และเป็นประสบการณ์ที่ดี การได้เข้าเห็นเพื่อนนักศึกษาจากสถาบันอื่น ในช่วงต่าง ๆ ของการแข่งขัน ก็เป็นกระบวนการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาตัวเอง ส่วน KPI ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน เช่น ผลการแพ้ชนะนั้น ควรใช้เป็นเครื่องเสริมแรงขับให้กับนักศึกษา
ร่วมมือ การแข่งขันนี้จะเกิดประสบผลสำเร็จได้จากการร่วมมือ ในปี 2016 ที่ผ่านมา หลายครั้งที่ผู้จัดจะต้องเดินทางไปในบางสถาบันมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งในเชิงการบริหารทรัพากรนั้นเป็นความสูญเสีย ทั้งเวลา และทุนทรัพย์ส่วนตัวของผู้จัด ในปี 2017 นี้ หากในสถาบันเดียวกัน ต่างคณะ ต่างสาขาวิชา จะได้ประสานความร่วมมือกันจะเป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่ง ในปี 2016 ผู้จัดการแข่งขันได้เห็นความร่วมมืออันดียิ่งระหว่างสถาบะนการศึกษาในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ที่หลาย
มหาวิทยาลัยร่วมมือกันและหลายภาควิชาร่วมมือกัน เพื่อประโยชน์ของนักศึกษา รวมไปถึงความร่วมมือที่มากขึ้นจากหน่วยงายภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย
พัฒนา ในมุมมองของผู้จัดการแข่งขัน เรามิอาจจะพัฒนาความรู้เพียงอย่างเดียว ยังมีหลายสิ่งที่นักศึกษาไทยจะต้องถูกพัฒนาบนความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย อาทิ การนำความรู้ไปใช้งาน ทักษะการคิดวิเคระห์, ทักษะด้านภาษา, ทักษะด้านการนำเสนอ ซึ่งทักษะที่เราไม่ได้เติมให้สุดความสามารถเหล่านี้ เป็นทักษะที่เราอ่อนด้อยที่สุดในภูมิภาคของเราเอง
การแข่งขัน Thailand ERM Challenge 2017 วางอยู่บนหลักการทั้ง 4 ดังที่กล่าวมาข้างต้น
ปรมินทร์ เยาว์ยืนยง, ผู้จัดการแข่งขัน
คำปรารภจากใจผู้จัดการแข่งขัน ประจำปี 2016 The First Thailand ERM Challenge 2016
เมื่อข้าพเจ้ารู้จัก MonsoonSIM ครั้งแรก ในกลางปี 2557 โดยเป็นผู้ร่วมดำเนิน workshop
ให้กับองค์กรรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในประเทศไทย ข้าพเจ้าพบว่านี่เป็นเครื่องมือที่ดี ที่ควรนำมาให้
สถาบันการศึกษาในประเทศไทยได้มีโอกาสใช้งาน เพราะเมื่อข้าพเจ้าเห็นว่าเกิดประโยชนเช่นไร
บ้างในขณะที่ร่วมนำ workshop นี้ ร่วมกับเจ้าของผลิตภัณฑ์จากอินโดนีเซีย ในฐานะที่ข้าพเจ้าไม่มี
ความรู้จากการเรียนวิชาบริหารธุรกิจ หรือ สารสนเทศ อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ได้แต่เรียนในคอร์สสั้นๆ
หรือ อ่านจากหนังสือ อาศัยการสอบถาม ครูพักลักจำ และนำมาดำเนินธุรกิจของตัวเองด้วยความรู้
แบบงูงูปลาปลา ข้าพเข้าบอกกับตัวเองถ้ามีเครื่องมือเช่นนี้เมื่อ 15 ปีก่อน จะดีแค่ไหน
วันหนึ่งในการไปแนะนำ MonsoonSIM ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ข้าพเจ้าพบข้อความที่เขียน
ไว้เพียงครึ่งเดียว ซึ่งน่าจะเป็นการตัดแปะที่พลาด เกิดความถูกใจในความหมายของข้อความนี้ ซึ่ง
มาทราบในภายหลังว่าเป็นคำพูดของ Stan Smith นักกีฬาเทนนิสชาวอเมริกันที่โด่งดังในยุค 80
เขา กล่าวไว้ว่า “Experience tells You what to do, Confidence allows you to do it"
ซึ่งสิ่งที่ข้าพเจ้าเผชิญมาในอดีต เมื่อครั้งไม่มีประสบการณ์ และขาดความมั่นใจ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจว่าควรผลักดันเรื่องนี้
การจัดการแข่งขัน Fist Thailand ERM Challenge ครั้งนี้ ข้าพเจ้าต้องการให้คณาจารย์ และนักศึกษาจากหลายๆ สถาบันการศึกษาของเราไปเห็น
“ของจริง” ว่าประเทศเพื่อนบ้านของเรานั้นก้าวหน้าในการเรียนการสอนอย่างไร ข้าพเจ้าประทับใจมากกับ นักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านของเราในรอบสัมภาษณ์ที่ข้าพเจ้าไปสังเกตการณ์ในการแข่งขัน ERM Challenge เมื่อพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ทีมนักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านของเราตอบคำถามเชิงบริหารได้อย่างน่าทึ่ง มีทักษะในการนำเสนอ มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยื่งทีมที่ชนะเลิศจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีอายุเฉลี่ยประมาณ 19 ปีเท่านั้น และมีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมด ข้าพเจ้าตระหนักทันทีว่าประเทศเรากำลังมีคู่แข่งที่น่ากลัว และเราไม่อาจหยุดการพัฒนาได้ ด้วยปณิธานนี้ ข้าพเจ้าจึงขอเรียนเชิญสถาบันการศึกษาเข้าร่วมในการแข่งขัน ซึ่งท่านไม่มีข้อผูดมัดใดๆ หากท่านไม่สนใจในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ โครงการนี้เกิดจากเงินเก็บและผลกำไรสะสมของบริษัทเล็กๆ ของข้าพเจ้า และความมุ่งมั่นที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศของตน อาจเป็นการแข่งขันเล็กๆ แต่ประสบการณ์นั้นเป็นของที่มีค่าที่นักศึกษาจะเติบโตไปในสายบริหารธุรกิจ บริหารสารสนเทศ ได้ด้วยความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง และหวังใจว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมองเห็นคุณค่าที่ข้าพเจ้าจะได้สื่อสารไป เพื่อเป็นผู้ประกอบการงานที่ดีของประเทศต่อไป ทั้งนี้หากสถาบันและหน่วยงานใดๆ ต้องการร่วมสนุบสนุนโครงการนี้ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ เพราะว่าข้าพเจ้าไม่อยากให้ทีมนักศึกษาและสถาบันต้องมีภาระในการเดินทางไปแข่งขัน ซึ่งประเทศสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายที่แพงเหลือเกิน ปีหน้าฟ้าใหม่ 2017 หากข้าพเจ้าสามารถดึงการแข่งขันมาที่ประเทศไทยได้ ข้าพเจ้าคงจะทำสุดแรง
ให้กับองค์กรรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในประเทศไทย ข้าพเจ้าพบว่านี่เป็นเครื่องมือที่ดี ที่ควรนำมาให้
สถาบันการศึกษาในประเทศไทยได้มีโอกาสใช้งาน เพราะเมื่อข้าพเจ้าเห็นว่าเกิดประโยชนเช่นไร
บ้างในขณะที่ร่วมนำ workshop นี้ ร่วมกับเจ้าของผลิตภัณฑ์จากอินโดนีเซีย ในฐานะที่ข้าพเจ้าไม่มี
ความรู้จากการเรียนวิชาบริหารธุรกิจ หรือ สารสนเทศ อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน ได้แต่เรียนในคอร์สสั้นๆ
หรือ อ่านจากหนังสือ อาศัยการสอบถาม ครูพักลักจำ และนำมาดำเนินธุรกิจของตัวเองด้วยความรู้
แบบงูงูปลาปลา ข้าพเข้าบอกกับตัวเองถ้ามีเครื่องมือเช่นนี้เมื่อ 15 ปีก่อน จะดีแค่ไหน
วันหนึ่งในการไปแนะนำ MonsoonSIM ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ข้าพเจ้าพบข้อความที่เขียน
ไว้เพียงครึ่งเดียว ซึ่งน่าจะเป็นการตัดแปะที่พลาด เกิดความถูกใจในความหมายของข้อความนี้ ซึ่ง
มาทราบในภายหลังว่าเป็นคำพูดของ Stan Smith นักกีฬาเทนนิสชาวอเมริกันที่โด่งดังในยุค 80
เขา กล่าวไว้ว่า “Experience tells You what to do, Confidence allows you to do it"
ซึ่งสิ่งที่ข้าพเจ้าเผชิญมาในอดีต เมื่อครั้งไม่มีประสบการณ์ และขาดความมั่นใจ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจว่าควรผลักดันเรื่องนี้
การจัดการแข่งขัน Fist Thailand ERM Challenge ครั้งนี้ ข้าพเจ้าต้องการให้คณาจารย์ และนักศึกษาจากหลายๆ สถาบันการศึกษาของเราไปเห็น
“ของจริง” ว่าประเทศเพื่อนบ้านของเรานั้นก้าวหน้าในการเรียนการสอนอย่างไร ข้าพเจ้าประทับใจมากกับ นักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านของเราในรอบสัมภาษณ์ที่ข้าพเจ้าไปสังเกตการณ์ในการแข่งขัน ERM Challenge เมื่อพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ทีมนักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านของเราตอบคำถามเชิงบริหารได้อย่างน่าทึ่ง มีทักษะในการนำเสนอ มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยื่งทีมที่ชนะเลิศจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีอายุเฉลี่ยประมาณ 19 ปีเท่านั้น และมีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมด ข้าพเจ้าตระหนักทันทีว่าประเทศเรากำลังมีคู่แข่งที่น่ากลัว และเราไม่อาจหยุดการพัฒนาได้ ด้วยปณิธานนี้ ข้าพเจ้าจึงขอเรียนเชิญสถาบันการศึกษาเข้าร่วมในการแข่งขัน ซึ่งท่านไม่มีข้อผูดมัดใดๆ หากท่านไม่สนใจในผลิตภัณฑ์ตัวนี้ โครงการนี้เกิดจากเงินเก็บและผลกำไรสะสมของบริษัทเล็กๆ ของข้าพเจ้า และความมุ่งมั่นที่ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศของตน อาจเป็นการแข่งขันเล็กๆ แต่ประสบการณ์นั้นเป็นของที่มีค่าที่นักศึกษาจะเติบโตไปในสายบริหารธุรกิจ บริหารสารสนเทศ ได้ด้วยความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง และหวังใจว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมองเห็นคุณค่าที่ข้าพเจ้าจะได้สื่อสารไป เพื่อเป็นผู้ประกอบการงานที่ดีของประเทศต่อไป ทั้งนี้หากสถาบันและหน่วยงานใดๆ ต้องการร่วมสนุบสนุนโครงการนี้ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ เพราะว่าข้าพเจ้าไม่อยากให้ทีมนักศึกษาและสถาบันต้องมีภาระในการเดินทางไปแข่งขัน ซึ่งประเทศสิงคโปร์มีค่าใช้จ่ายที่แพงเหลือเกิน ปีหน้าฟ้าใหม่ 2017 หากข้าพเจ้าสามารถดึงการแข่งขันมาที่ประเทศไทยได้ ข้าพเจ้าคงจะทำสุดแรง