ตอนที่ 12 กลยุทธ์ P-Place แบบ O2O
พี่แว่นหน้าตาดียังคงวนเวียนกับ Marketing Mix ที่ยังืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่า เป็น "พื้นฐาน" ที่เมื่อเข้าใจแล้ว จะบิดไปในรูปแบบไหน ก็สามารถเข้าใจ และเอาไปต่อยอดได้
จากตอนที่ 11 พี่แว่นได้สาธยาย ประวัติศาสตร์ของ P-Place ที่แปรผันไปตาม Technology ที่ทำให้ Place เกิดพัฒนาการ
ไอ้ครั้งจะทิ้งของใหม่ทั้งหมด ไม่มีของเดิมเลยก็ยังทำไม่ได้ เพราะว่ าลูกค้า ต้องการสินค้าที่และบริการที่ Tangible คือ สัมผัสได้ ต่อให้กระบวนการซื้อขาย ตัดสินใจ จ่ายเงิน จะเป็น Half Physical Half Virtual ก็ตามที
สมัยนี้มีกลุยุทธ์ที่เรียกว่า O2O หรือ Online2Offline หรือ Offline2Online หรือ เรียกว่า Omni Channel นั้น เป็นลูกครึ่งระหว่าง P-Place กับ P-Process ผสมผสานกัน
Online คือ ระบบ Digital หรือ P-Place ในรุปแบบ Virtual บนโลก Cyber เช่น Platform ต่าง ๆ ที่ทำให้ Demand ของผู้ซื้อ ไปพบกับ Supply ของผู้ชายหรือผู้ผลิต
Offline คือ ระบบ Analogue หรือ P-Place ในรูปแบบ Physical คือ ต้องมีสถานที่ เช่น ร้านค่าในสรรพสินค้า, ร้านค่าแบบทั่วไปในย่านการค้า
การข้ามไปมาระหว่าง O-Online P-Physical Place และ O-Offine P-Virtual Place หรือ เลือกใช้อย่างใด อย่างนึ่งนั้น หรือผสมปสานกัน เช่น O2O2O มีหลายปัจจัย
ธุรกิจ สินค้า และบริการ จะใช้ P-Place แบบใด นั้น มีหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมของกลุ่มผู้ซื้อและกลุ่มผู้ขาย, ช่วงวัย และ Technology Adpotion, ถิ่นที่อยู่, ความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน , ค่านิยม, ประเภทของสินค้าและบริการ ฯลฯ
มาลองดูกรณีศึกษากัน
กรณี Online2Offline
หากสินค้าเป็นสินค้าที่ต้องจับต้อง สัมผัส ทดลอง เช่น กลุ่มเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ แน่นอนว่า O-Online และ P-Virtual Place อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ต้องอาศัย O-Offline และ P-Physical Place เพื่อให้เกิด Tangible Touch สัมฟัสได้ ทดลองได้จริง กรณีแบบนี้ ผู้มองหา อาจะใช้ Online เป็นทางเลือกในการกลั่นกรอง มองหาผู้ผลิต หรือผู้ขาย แต่ท่ามักจะไปจบการซื้อขายที่ Offline เสมอ ๆ
กรณี Offline2Online
หากสินค้าเป็นสินค้าเป็นสินค้าที่รู้ทราบ สเปก มิติ ขนาด แน่นอน หรือเป็นการซื้อศ้ำในครั้งที่สอง Onliine / P-Virtual Place เป็นทางออกที่ดี เพราะเทียบเพียงราคา หรือ ต้องการความสะดวกมากกว่า ในกรณีแบบนี้มีตัวอย่างอีก เช่น ชอบรสขาติอาหารร้านนี้ หรือ ร้านนี้มีชื่อเสียง จนทำให้ขั้ยตอนการเลือกสรรถูกมองข้ามไป เป็นความต้องการ บริการอย่างเช่น Grab Food, Food Panda จึงเกิดขึ้น หรือ บริการซื้อสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต ทาง Online และให้มาส่งสินค้านั้น
ธุรกิจในสมัยปัจจุบัน เดินทางมาถึงขั้นตอนที่ ใช้ O2O ทั้งสิ้น เป็นการเลื่อนตลาดมาให้ผู้ซื่อ จากเทคโนโลยี ยิ่งในปัจจุบัน นั้น เทคโนโลยีภาพแบบ HD, 3D สามารถมองเห็นรายละเอียดของสินค้าได้มาก ความเห็นจากโลก Online ทำให้ตัดสินใจได้ดี จนอาจทำให้เชื่อว่า Online จะครองโลก ทว่า ไม่จริงเสมอไป
ปัจจุบัน Online ดึงเวลาและยั่นทอนความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคม Community Mall, HyperMart, Mixuse Property คือตัวอย่างที่ยืนยันว่า Offline และ Physical Place ยังคงมีอยู่ เพราะว่า มีบางมุมของความต้องการของมนุษย์ในหลักสังคมวิทยา ที่ยังทำให้คนในทุกระดับยังต้องการการพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิด มีกิจกรรมร่วมกัน ตราบใดที่ยังมีความต้องการเหล่านี้ โลกก็ยังต้องการ P-Place แบบ Physical อยู่ดี
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ปรพกอบการ สิ่งที่สำคัญ คือ ท่านจะใช้ O2O ผสมผสานกันกับ Decision Making Process และ Human requirement ได้อย่างไร หากท่านตีโจทย์แตก ท่านจะเลือกผสม O2O2O2O ได้อย่างเหมาะสม ในกรณีที่สินค้าเป็นสวินค้าชิ้นใหญ่ ตัดสินใจยาก เช่น บ้านและคอนโด ที่ผุ้ซื้อ จะใช้วิธีการหาข้อมูล ดูพื้นที่ วัดระยะทางจาก จุดต่อจุด เช่น คอนโด กับสถานที่ทำงาน ผ่าน Google Map ในเวลาต่าง ๆ เพื่อดูสภาพรถติด และยังต้องจับรถไปดูทั้งห้อง และบ้านหลังจริง และสภาพการจราจรจริง และกลับไปดูความเห็นของลูกบ้าน และ feedback ต่าง ๆ ในโลก Intermet กลับไปกลับมาแบบนี้ หากท่านเข้าใจกระบวนการตัดสินใจของผู้ซื้อ ท่านจะเลือก สื่อสารทางการตลาด และใช้กลยุท์ธ์ในแต่ะละห่วงโซ่ O2O ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
หากทำได้ถึงขั้นนี้ ท่านสามารถใช้ O2O ในฐานะ P-Place integrate P-Process และวางแผน ณIntegrate P-Promotion ใน Media หรือ เส้นทาง ที่ผู้ซื้อผ่าน จบท้ายด้วย P-Price
นี่คือ กระบวนท่าไม้ตาย 18 อรหันต์แห่งโลกปัจจุบัน โดยมองผ่าน P-Place ด้วย O2O ครับ
พี่แว่นหนา้ตาดี เชื่อมโยง หลายๆ เรื่องเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นความตั้งใจในทุกบทความ ที่จะไม่พูดเรื่องใดโดดๆ ผู้ผ่านจะต้องคิดตาม หยุดคิด คิดเป็นภาพ และ match ประสบการณ์ที่พบเห็นในชีวิตประจำวันเข้าด้วยกัน จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ท่าน
เราพูดเรื่องง่าย ๆ ให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่ท่านสามารถนำเอาส่วนใด ๆ ไปใช้งานได้จริง นี่คือ ความตั้งใจของ #บทเรียนง่ายๆสไตล์มอนซูน ท่านสามารถติดตาม Hashtag นี้ใน FB หรือ ติดตาม Facebook: www.facebook.com/MonsoonSIMTH
พี่แว่นหน้าตาดียังคงวนเวียนกับ Marketing Mix ที่ยังืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่า เป็น "พื้นฐาน" ที่เมื่อเข้าใจแล้ว จะบิดไปในรูปแบบไหน ก็สามารถเข้าใจ และเอาไปต่อยอดได้
จากตอนที่ 11 พี่แว่นได้สาธยาย ประวัติศาสตร์ของ P-Place ที่แปรผันไปตาม Technology ที่ทำให้ Place เกิดพัฒนาการ
ไอ้ครั้งจะทิ้งของใหม่ทั้งหมด ไม่มีของเดิมเลยก็ยังทำไม่ได้ เพราะว่ าลูกค้า ต้องการสินค้าที่และบริการที่ Tangible คือ สัมผัสได้ ต่อให้กระบวนการซื้อขาย ตัดสินใจ จ่ายเงิน จะเป็น Half Physical Half Virtual ก็ตามที
สมัยนี้มีกลุยุทธ์ที่เรียกว่า O2O หรือ Online2Offline หรือ Offline2Online หรือ เรียกว่า Omni Channel นั้น เป็นลูกครึ่งระหว่าง P-Place กับ P-Process ผสมผสานกัน
Online คือ ระบบ Digital หรือ P-Place ในรุปแบบ Virtual บนโลก Cyber เช่น Platform ต่าง ๆ ที่ทำให้ Demand ของผู้ซื้อ ไปพบกับ Supply ของผู้ชายหรือผู้ผลิต
Offline คือ ระบบ Analogue หรือ P-Place ในรูปแบบ Physical คือ ต้องมีสถานที่ เช่น ร้านค่าในสรรพสินค้า, ร้านค่าแบบทั่วไปในย่านการค้า
การข้ามไปมาระหว่าง O-Online P-Physical Place และ O-Offine P-Virtual Place หรือ เลือกใช้อย่างใด อย่างนึ่งนั้น หรือผสมปสานกัน เช่น O2O2O มีหลายปัจจัย
ธุรกิจ สินค้า และบริการ จะใช้ P-Place แบบใด นั้น มีหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมของกลุ่มผู้ซื้อและกลุ่มผู้ขาย, ช่วงวัย และ Technology Adpotion, ถิ่นที่อยู่, ความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน , ค่านิยม, ประเภทของสินค้าและบริการ ฯลฯ
มาลองดูกรณีศึกษากัน
กรณี Online2Offline
หากสินค้าเป็นสินค้าที่ต้องจับต้อง สัมผัส ทดลอง เช่น กลุ่มเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ แน่นอนว่า O-Online และ P-Virtual Place อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ต้องอาศัย O-Offline และ P-Physical Place เพื่อให้เกิด Tangible Touch สัมฟัสได้ ทดลองได้จริง กรณีแบบนี้ ผู้มองหา อาจะใช้ Online เป็นทางเลือกในการกลั่นกรอง มองหาผู้ผลิต หรือผู้ขาย แต่ท่ามักจะไปจบการซื้อขายที่ Offline เสมอ ๆ
กรณี Offline2Online
หากสินค้าเป็นสินค้าเป็นสินค้าที่รู้ทราบ สเปก มิติ ขนาด แน่นอน หรือเป็นการซื้อศ้ำในครั้งที่สอง Onliine / P-Virtual Place เป็นทางออกที่ดี เพราะเทียบเพียงราคา หรือ ต้องการความสะดวกมากกว่า ในกรณีแบบนี้มีตัวอย่างอีก เช่น ชอบรสขาติอาหารร้านนี้ หรือ ร้านนี้มีชื่อเสียง จนทำให้ขั้ยตอนการเลือกสรรถูกมองข้ามไป เป็นความต้องการ บริการอย่างเช่น Grab Food, Food Panda จึงเกิดขึ้น หรือ บริการซื้อสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต ทาง Online และให้มาส่งสินค้านั้น
ธุรกิจในสมัยปัจจุบัน เดินทางมาถึงขั้นตอนที่ ใช้ O2O ทั้งสิ้น เป็นการเลื่อนตลาดมาให้ผู้ซื่อ จากเทคโนโลยี ยิ่งในปัจจุบัน นั้น เทคโนโลยีภาพแบบ HD, 3D สามารถมองเห็นรายละเอียดของสินค้าได้มาก ความเห็นจากโลก Online ทำให้ตัดสินใจได้ดี จนอาจทำให้เชื่อว่า Online จะครองโลก ทว่า ไม่จริงเสมอไป
ปัจจุบัน Online ดึงเวลาและยั่นทอนความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคม Community Mall, HyperMart, Mixuse Property คือตัวอย่างที่ยืนยันว่า Offline และ Physical Place ยังคงมีอยู่ เพราะว่า มีบางมุมของความต้องการของมนุษย์ในหลักสังคมวิทยา ที่ยังทำให้คนในทุกระดับยังต้องการการพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิด มีกิจกรรมร่วมกัน ตราบใดที่ยังมีความต้องการเหล่านี้ โลกก็ยังต้องการ P-Place แบบ Physical อยู่ดี
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ปรพกอบการ สิ่งที่สำคัญ คือ ท่านจะใช้ O2O ผสมผสานกันกับ Decision Making Process และ Human requirement ได้อย่างไร หากท่านตีโจทย์แตก ท่านจะเลือกผสม O2O2O2O ได้อย่างเหมาะสม ในกรณีที่สินค้าเป็นสวินค้าชิ้นใหญ่ ตัดสินใจยาก เช่น บ้านและคอนโด ที่ผุ้ซื้อ จะใช้วิธีการหาข้อมูล ดูพื้นที่ วัดระยะทางจาก จุดต่อจุด เช่น คอนโด กับสถานที่ทำงาน ผ่าน Google Map ในเวลาต่าง ๆ เพื่อดูสภาพรถติด และยังต้องจับรถไปดูทั้งห้อง และบ้านหลังจริง และสภาพการจราจรจริง และกลับไปดูความเห็นของลูกบ้าน และ feedback ต่าง ๆ ในโลก Intermet กลับไปกลับมาแบบนี้ หากท่านเข้าใจกระบวนการตัดสินใจของผู้ซื้อ ท่านจะเลือก สื่อสารทางการตลาด และใช้กลยุท์ธ์ในแต่ะละห่วงโซ่ O2O ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
หากทำได้ถึงขั้นนี้ ท่านสามารถใช้ O2O ในฐานะ P-Place integrate P-Process และวางแผน ณIntegrate P-Promotion ใน Media หรือ เส้นทาง ที่ผู้ซื้อผ่าน จบท้ายด้วย P-Price
นี่คือ กระบวนท่าไม้ตาย 18 อรหันต์แห่งโลกปัจจุบัน โดยมองผ่าน P-Place ด้วย O2O ครับ
พี่แว่นหนา้ตาดี เชื่อมโยง หลายๆ เรื่องเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นความตั้งใจในทุกบทความ ที่จะไม่พูดเรื่องใดโดดๆ ผู้ผ่านจะต้องคิดตาม หยุดคิด คิดเป็นภาพ และ match ประสบการณ์ที่พบเห็นในชีวิตประจำวันเข้าด้วยกัน จะเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ท่าน
เราพูดเรื่องง่าย ๆ ให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่ท่านสามารถนำเอาส่วนใด ๆ ไปใช้งานได้จริง นี่คือ ความตั้งใจของ #บทเรียนง่ายๆสไตล์มอนซูน ท่านสามารถติดตาม Hashtag นี้ใน FB หรือ ติดตาม Facebook: www.facebook.com/MonsoonSIMTH