ตอนที่ 8: ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงเช่นไร เมื่อเราสร้างสังคมอุดมนักประกอบการ
หมายเหตุ: บทความนี้มิใช่บทความทางวิชาการ เป็นบทความเพื่อการแบ่งปันมุมมองต่อปัญหาของประเทศไทยในวิธีการมองแบบหนึ่งเท่านั้น ใน EP 8 นี้ เป็น Episode ทุดท้าย ที่ท่านผู้อ่านจะไม่ต้อง suffer กับงานเขียนที่ไม่คาดหวังจะมีคนอ่านนี้ โดยเป็นส่วนสรุปให้เห็นประโยชน์ของการสร้างนักประกอบการ ที่มากขึ้น จนประเทศไทยสามารถเป็นสังคมอุดมนักประกอบการ
โดย ปรมินทร์ เยาว์ยืนยง
Related Content:
EP 1 นิยามของ Entreprenuer กับความหมายที่เพิ่มพูนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
EP 2 ประเภททักษะแห่งการประกอบการ (ในทัศนะของผู้เขียน)
EP 3 ทักษะแห่งการประกอบการที่พึงมี
EP 4 Entreprenuerial Mideset กระบวนคิดและลงมือทำของผู้ประกอบการ
EP 5 ความเข้าใจผิดในการประกอบการในสังคมไทย ช่วยกันเปลี่ยน ช่วยกันปรับ เพื่อประเทศแห่งการประกอบการ
EP 6 มาร่วมสร้าง Eco-System ของสังคมอุดมนักประกอบการ
EP 7 มาเป็น Charles Xavier ให้กับสังคมอุดมนักประกอบการกัน
EP 8 ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงเช่นไร เมื่อเราสร้างสังคมอุดมนักประกอบการ
หมายเหตุ: บทความนี้มิใช่บทความทางวิชาการ เป็นบทความเพื่อการแบ่งปันมุมมองต่อปัญหาของประเทศไทยในวิธีการมองแบบหนึ่งเท่านั้น ใน EP 8 นี้ เป็น Episode ทุดท้าย ที่ท่านผู้อ่านจะไม่ต้อง suffer กับงานเขียนที่ไม่คาดหวังจะมีคนอ่านนี้ โดยเป็นส่วนสรุปให้เห็นประโยชน์ของการสร้างนักประกอบการ ที่มากขึ้น จนประเทศไทยสามารถเป็นสังคมอุดมนักประกอบการ
โดย ปรมินทร์ เยาว์ยืนยง
Related Content:
EP 1 นิยามของ Entreprenuer กับความหมายที่เพิ่มพูนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
EP 2 ประเภททักษะแห่งการประกอบการ (ในทัศนะของผู้เขียน)
EP 3 ทักษะแห่งการประกอบการที่พึงมี
EP 4 Entreprenuerial Mideset กระบวนคิดและลงมือทำของผู้ประกอบการ
EP 5 ความเข้าใจผิดในการประกอบการในสังคมไทย ช่วยกันเปลี่ยน ช่วยกันปรับ เพื่อประเทศแห่งการประกอบการ
EP 6 มาร่วมสร้าง Eco-System ของสังคมอุดมนักประกอบการ
EP 7 มาเป็น Charles Xavier ให้กับสังคมอุดมนักประกอบการกัน
EP 8 ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงเช่นไร เมื่อเราสร้างสังคมอุดมนักประกอบการ
ในฐานะที่ผู้เขียนจบการศึกษาในสายสังคมศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบว่า "สังคมอุดมนักประกอบการ" น่าจะเป็นเรื่องเกินความใฝ่ฝัน แบบที่ Thomas more เขียนไว้ในวรรณกรรมยุคกลาง (ราว คศ. 1516) เรื่อง Utopia และเข้าได้รับการขนานนามว่าเป็น Utopian Socialist ผู้เขียนเชื่อว่า เราอาจจะทำให้ทุกคนในสังคมเป็นนักประกอบการไม่ได้ทั้งหมด แต่ไม่ได้แปลว่า เราจะมีสัดส่วนของนักประกอบการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้สังคมเรามากด้วย (อุดม) นักประกอบการได้ ใน EP 1 -EP 7 ผู้เขียนได้เริ่มตั้งแต่นิยาม ความรู้ทักษะของการเป็นนักประกอบการ การสร้างบรรยากาศแวดล้อม การสร้างสังคมอุดมนักประกอบการ ผู้นำของการสร้างแบบ Charles Xavier ตามภาพยนตร์ที่ผู้เขียนชืนชอบ ใน EP8 นี้ จะมาพูดถึงหน้าตาโฉมใหม่ของสังคมอุดมนักประกอบการ ซึ่งไม่ไกลเกินความเพ้อฝัน หากทุกคนในสังคมร่วมด้วยช่วยกันสร้างสังคมนี้ให้เป็นสังคมอุดมนักประกอบการ
เกณฑ์ 5 ข้อของนักประกอบการ
สังคมอุดมนักประกอบการ
ประโยชน์ที่สังคมจะได้รับจาก "สังคมอุดมนักประกอบการ"
โดยความสัจจริง ผู้เขียนไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องแสดงรายละเอียดที่จะมีอยู่อย่างหลากหลายและมากมายจากการที่สังคมของเราเป็นสังคมอุดมนักประกอบการ ทว่า เพื่อให้ข้อเขียนมีทางลงที่สวยงามแลลมีลีลา จำเป็นจะต้องแสดงรายละเอียดไว้พอเป็นสังเขปดังนี้
ประโยชน์เหล่านี้เกิดจาก การที่ประชากรมีคุณภาพมากขึ้น จากการเป็นนักแก้ปัญหา ซึ่งใช้การปฏิบัติลงมือ ควบคู่ความรู้ เป็นสิ่งที่จะเป็น มโนคติก็ได้ หรือ จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงทีละเล็กทีละน้อย จนใกล้เคียงความสมบูรณ์ได้ในอนาคต ให้เริ่มต้นที่ ทุกคนเป็นนักประกอบการ ทำในขนาดของตนเอง ในความรับผิดชอบปรกติ และเพิ่มคุณค่าร่วมกัน เราจะเป็นประเทศไทยที่ดีได้ และอุดมไปด้วยนักประกอบการ
ผู้เขียนขอมอบบทความทั้ง 7 ตอน เพื่อประโยชน์ของสังคม อาจมีความขัดใจแก่ผู้อ่านทั้งในเนื้อหา ลีลา ข้อความ ตัวอย่าง ทั้งหมดล้วนแต่เป็นการแบ่งปันแนวคิด และประสบการณ์ของผู้เขียน ซึ่งไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด และไม่สามารถถูกใจทุกท่าน ในทุกมุมมองได้ หากเพียงท่านได้นำเอาสิ่งเหล่านี้ไปเริ่มต้น ให้ความร่วมมือที่ท่านทำได้ บทความนี้ก็เป็นประโยชน์คืนกลับไปสู่สังคมของเราเท่านั้นเอง
เกณฑ์ 5 ข้อของนักประกอบการ
- นักประกอบการ คือ นักแก้ปัญหาด้วยเป้าประสงค์ที่วางไว้ บนทรัพยากรที่จำกัด วัดผลงานได้ เรียนรู้ได้จากความผิดพลาด ประสบความสำเร็จแล้วส่งมอบตัวคูณไปสู่สังคมได้ โดยยังคงความสงบสุขและสวัสดิภาพแก่สังคมและสิ่งแวดล้อม
- นักประกอบการ แก้ปัญหาด้วย กระบวนการและวิธีการ เทคโนโลยี รอบตัวก่อน ก่อนจะพิจารณาใช้ "เงิน" หรือ "ความช่วยเหลือพิเศษ" แก้ปัญหา
- นักประกอบการ ไม่ใช่นักคิด แต่เป็น นักคิด + นักปฏิบัติ + นักบริหาร เป็นพื้นฐานสำคัญ
- นักประกอบการ มีหลายระดับ หลายสาขาความเชี่ยวชาญ คุณค่าของนักประกอบการไม่ได้อยู่ที่ควสามยากหรือง่ายของปัญหา หรือ Outcome ที่เกิดขึ้น ตราบใดที่ปัญหาสิ้นสุดลงไใ่ว่าจะระดับใด เขาเป็นนักประกอบการทั้งสิ้นซึ่งเป็นความเหมือนกัน ส่วนความแตกต่างนั้น อยู่ที่ว่า จะเป็นนักประกอบการด้านใด เช่น นักประกอบการทางธุรกิจ, นักประกอบการสังคม, นักประกอบการด้านเทคโนโลยี, นักประกอบการด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ หรือ อาจะเรียกว่า "เป็นมืออาชีพในสายงานนั้นๆ ก็ไม่ผิด
- นักประกอบการ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเจ้าของ หรือมีส่วนความเป็นเจ้าของในเชิงธุรกิจ แต่ "จำเป็น" จะต้องมีส่วนร่วมในผลลัพท์ ที่เกิดขึ้นในสังคม หรือองค์กรนั้น ๆ มีความปรารถนาที่จะให้สังคมหรือองค์กรเกิดผลทางบวกทั้งในระดับส่วนตัวและสวนร่วม มีความกระตือรือล้น มีส่วนร่วมใน "ส่วนเสีย" ที่เกิดขึ้น และพร้อมร่วมมือช่วยแก้ปัญหาตามความสามารถของจนสู่สังคมและองค์กร
สังคมอุดมนักประกอบการ
- ในทุกหน่วยของสังคมมีนักประกอบการอยู่ในหน่วยต่าง ๆ ของสังคม ในจำนวนที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์กร และสังคมนั้น ๆ ให้ดีขึ้น และทหใ้ทุกคนในสังคมเห็นประโยชน์ จับต้องประโยชน์นั้น ๆ ร่วมกันได้
- หน่วยของสังคมมีนักแก้ปัญหา(นักประกอบการ) เช่น วัด มีพระสงฆ์ และมัคทายก, บ้าน มีสมาชิกในครอบครัว, โรงเรียน สถานบันการศึกษา มีครูอาจารย์ และผู้บริหาร, หมู่บ้านมีลูกบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน และเติบโตไปในหน่วยอื่น ๆ ต่อไปตามลำดับ
- สัดส่วนของนักประกอบการ ภายในสังคม หรือองค์กร เมื่อแรกเริ่มนั้น ควรเพิ่มจำนวนจากหลักหน่วย เป็นหลักสิบ และพัฒนาจำนวนเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ส่วนจะเป็นจำนวนเท่าใดต่อประชากรนั้น ผู้เขียนคงให้คำตอบไม่ได้ เพราะว่า ไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นนักประกอบการได้ทั้งหมด เพียงแต่ต้องมีจำนวนมากพอที่จะไม่ต้องการระบบ Super Hero เพื่อแก้ปัญหา
- ผู้ได้รับประโยชน์จากนักประกอบการ สามารถที่จะปรับเปลี่ยนตัวเอง มาเป็นนักประกอบการ หากขาดปัจจัยข้อนี้ ไม่ถือว่าเป็นสังคมของนักประกอบการ
ประโยชน์ที่สังคมจะได้รับจาก "สังคมอุดมนักประกอบการ"
โดยความสัจจริง ผู้เขียนไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องแสดงรายละเอียดที่จะมีอยู่อย่างหลากหลายและมากมายจากการที่สังคมของเราเป็นสังคมอุดมนักประกอบการ ทว่า เพื่อให้ข้อเขียนมีทางลงที่สวยงามแลลมีลีลา จำเป็นจะต้องแสดงรายละเอียดไว้พอเป็นสังเขปดังนี้
- เชิงปัจเจกบุคคล ครัวเรือน และสังคมรอบตัว
- ประชาชนที่เป็นนักประกอบการ จะสามารถแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้ เพิ่มศักยภาพในการเรียนรู้ มีทักษะเพิ่มขึ้น
- นักประกอบการที่มีประสบการณ์มากขึ้น จะเป็น Mentor หรือ Incubator ต่อไปในระดับปัจเจกบุคคล
- ต้นทุนในการแก้ปัญหาในส่วนตัว และครัวเรือง
- หน่วยสังคมขนาดเล็ก ๆ รายนรอบตัว จะได้รับอานิสงค์ของนักประกอบการ ทำให้สังคมเหล่านั้น มีทางออกที่ดี มีผลการเปลี่ยนแปลงเป็นรุปธรรม มีคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีต่อไป
- สังคมมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีในการอยู่อาศัยร่วมกัน.
- จะมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกมากขึ้น
- ฯลฯ
- เชิงสังคมมหภาค
- ประเทศเป็นสังคมตื่นรู้ และตื่นทำ มีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น สามารถปรับตัวได้ไวขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- มีการถ่ายโอนองค์ความรู้ ทักษะ วิธีการรปฏิบัติ บทเรียน แก่กันและกัน นำไปสู่การเป็น Live Long Learning Nation
- จำนวนปัญหาของประเทศไทยในระดับชาติจะทยอยลดลง และปัญหารากฐานต่าง ๆ ที่สามารถใช้การจัดการเบื้องต้นแก้ปัญหาได้ จะด้รับการแก้ไขเพิ่มขึ้น งบประมาณที่ใช้ และระยะเวลาในการแก้ปัญหาลดลง
- ฯลฯ
ประโยชน์เหล่านี้เกิดจาก การที่ประชากรมีคุณภาพมากขึ้น จากการเป็นนักแก้ปัญหา ซึ่งใช้การปฏิบัติลงมือ ควบคู่ความรู้ เป็นสิ่งที่จะเป็น มโนคติก็ได้ หรือ จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงทีละเล็กทีละน้อย จนใกล้เคียงความสมบูรณ์ได้ในอนาคต ให้เริ่มต้นที่ ทุกคนเป็นนักประกอบการ ทำในขนาดของตนเอง ในความรับผิดชอบปรกติ และเพิ่มคุณค่าร่วมกัน เราจะเป็นประเทศไทยที่ดีได้ และอุดมไปด้วยนักประกอบการ
ผู้เขียนขอมอบบทความทั้ง 7 ตอน เพื่อประโยชน์ของสังคม อาจมีความขัดใจแก่ผู้อ่านทั้งในเนื้อหา ลีลา ข้อความ ตัวอย่าง ทั้งหมดล้วนแต่เป็นการแบ่งปันแนวคิด และประสบการณ์ของผู้เขียน ซึ่งไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด และไม่สามารถถูกใจทุกท่าน ในทุกมุมมองได้ หากเพียงท่านได้นำเอาสิ่งเหล่านี้ไปเริ่มต้น ให้ความร่วมมือที่ท่านทำได้ บทความนี้ก็เป็นประโยชน์คืนกลับไปสู่สังคมของเราเท่านั้นเอง