" ก่อนจะกลัวเข้ารอบแล้วจะแพ้เพราะต้อง present ภาษาอังกฤษ ขอแนะนำให้กลัวว่าจะห่วยไปอีกกี่ปี กับสิ่งที่สิ่งหนีไปไม่ได้ " ผมเป็นคนที่ภาษาอังกฤษไม่เอาไหน เรียนมาแต่ ป.1 พ่อส่งไปเรียน YMCA ทุกวันเสาร์ ผ่านไปจนจบรับปริญญาแล้ว ผมก็ยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้ ทำงานเข้าปีที่ 10 ได้มีโอกาสไปทำงานกับคนต่างประเทศ จริง ๆ เรารู้ว่าจะพูดอย่างไร เราแค่กลัว เพราะว่าเราถูกสอนแบบผิด ๆ จากชั้นเรียนภาษาอังกฤษห่วย ๆ ของไทย ว่า ต้องออกเสียงแบบนั้น แบบนี้ Verb ผันช่องนั้น ใส่ ed เป็น passsive อย่างงี้ เอาเข้าจริงนะ เมื่อผมพูดออกไปครั้งแรก แล้วคนต่างชาติเข้าใจ มันเพียงพอแล้ว นั่นเป็น step แรกของการพูดภาษาอังกฤษ จนชำนาญแบบ Tinglish (ภาษาอังกฤษแบบไทยๆ) ผมรอถึงอายุ 25 ผมพลาดโอกาสไปมากมาย สมัยก่อนไม่มี YouTube Cable TV ก็แพง เพลงฝรั่งก็เป็นตลับ สมัยนี้ภาษาอังกฤษอยู่รอดตัวขึ้น ให้ถามตัวเองว่า จะเสียเวลาอีกกี่ปี เพราะชีวิตของคนรุ่นคคุณนั้น หนีภาษาอังกฤษไม่ได้ ผมแนะนำให้ดาหน้าสู้กับมันเลย ทุกวันนี้ ผมยังพูดผิดแกรมม่าบ้าง ออกเสียงผิดบ้าง แต่ผมไม่ได้อายอะไร เพียงแต่ผมสื่อสารได้ ผมด่าเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายบัญชี แสดงทรรศนะด้วยภาษาอังกฤษได้ คนที่ทำงานกับผมเขามองข้ามภาษาอังกฤษพอใช้ของผม เขามองไปถึงความสามารถ ที่เราสื่อสารได้ต่างหาก พี่ชิด |
คลิปแห่งแรงบันดาลใจนี้ ได้เคยขออนุญาตอดีตนักศึกษาที่ปรากฎในคลิปแล้ว เป็นคลิปที่บอกว่า คุณกล้าที่จะเอาชนะความกลัวที่คนทั้งโลกกลัวหรือไม่ สิ่งนั้น คือ การพูดต่อหน้าสาธารณะ และแถมยังเป็นภาษาที่คุณไม่คุ้นเคย ผมขอให้คลิปนี้เป็นแรงบันดาลใจกับขาวมรสุมสยามรุ่นหลังต่อไป
นอกจากความกล้าของนักศึกษา ซึ่งควรกล้านทางที่ถูกและสร้างสรรค์ นักศึกษาทีมนี้ ยังเป็นผู้แบ่งปัน มีใจกว้าง เพราะว่า ถึงแม้นว่าเขาจะถูกบันทึก สิ่งที่หลายคนอาจะเรียกว่า "ความอับอาย" แต่จริง ๆ แล้ว ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอะไร ให้คุณถามตัวเองก่อนว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต คุณเคยพูดต่อหน้าคนหลักร้อยด้วยภาษาอังกฤษหรือไม่ .. และเข้าเหล่านั้นเป็นคนที่คุณไม่รู้จักด้วย .. ที่ขอบพระคุณยิ่ง คือ อาจารย์ที่ปรึกษา ที่ท่านกรุณาอนุญาตให้เผยแพร่ เพื่อประโยชน์แก่คนรุ่นต่อไป ไม่ใช่ทุกคนที่มี "น้ำใจ" "แบ่งปัน" เกินกว่า "ความเป็นหน้าเป็นตา ซึ้งเป็นสิ่งสมมุติ"
การแข่งขัน TH ERM Challenge เรามุ่งหวังที่จะให้ ให้นักศึกษาได้แสดงศักยภาพของตน ข้อจำกัดของตน และเอาชนะมัน ผมพูดเสมอกับน้อง ๆ นักศึกษาในคลาสว่า
1. จงกล้าทำในสิ่งที่ถูก
2. จงหัดทำผิด แล้วอย่าเสียใจ แต่ให้เรียนรู้ที่จะทำให้ถูก
3. จงอย่าพอใจ หรือวางใจว่าดีแล้ว แต่ให้บอกว่า ทำดีกว่านี้ทำอย่างไร และเมื่อไหร่
4. จงใช้ประโยชน์ของความเยาว์วัย ให้ถูกเวลา
5. จงอย่าโตไปเป็นคนที่ไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเราไม่รู้อะไร
สิ่งนี้เป็นส่ิงที่ Active Learner หรือ ผมจะพูดว่า "ความหวังของประเทศไทย" จำเป็นจะต้องมี ผมเสียเวลาในชีวิต จากเรื่องความไม่กล้าในภาษาอังกฤษอยู่หลายปี คุณรู้ไหม หนังสือดีดีในโลกนี้ ร้อยละ 80 ถูกถ่ายทอดด้วยภาษาอังกฤษ คุณจะหาเงินได้มากกว่าเมื่อคุณใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับคนทั้งโลก ไม่ใช่ ภาษาไทยกับคน 70 ล้านคน คุณหนีไม่ได้ ก็พุ่งชน เวที TH ERM Challenge 2018 เป็นเวที ที่ กรรมการทุกท่าน เข้าใจว่า ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ เราไม่สนแกรมม่า เราสนว่าคุณสื่อสารดั่งใจที่คุณคิดได้หรือไม่ ไม่มีอะไรต้องกลัว
แล้วอย่ากลัวที่จะแพ้ บนสนามแข่งขันนี้ ให้เอาเวลาไปเตรียมตัว และกลัว "ความพ่ายแพ้ ในชีวิตจริง" ดีกว่า
เวลาผมดูคลิปนี้ ผมเห็นตัวเองเมื่อก่อน ผมเพิ่งมารู้ว่า เมื่อเทียบกับคนรุ่นพวกคุณนั้น ผมทั้งโง่กว่า ด้อยกว่า กล้าน้อยกว่า เพราะว่าปรมินทร์ในตอนที่อายุเท่าคุณนั้น ผมไม่กล้าแม้จะออกไปพูดบนเวที ด้วยภาษาอังกฤษแบบนี้
ตั้งแต่อายุ 26 เป็นต้นมา ผมต้องทำงานกับคนต่างประเทศมากขึ้น หลายสำเนียง ผมเรียนรู้จากการฝึกฝน ไม่เข้าใจผมถามลูกค้า ทั้งคนไทยและคนต่างชาติว่า ผมเข้าใจถูกไหม ผมไม่เห็นว่ามันน่าอับอายอย่างไร ผมหนี English Formal Public Speaking มานานจนวันหนึ่งที่ ผมจะต้องไปเป็น MC ในงานประชุมนานาชาติ มีคนกว่า 500 คน จากหลายสิบประเทศ ผมเพิ่งเอาชนะความกลัวที่แท้ทรูในวันนั้น หลังจากนั้น ผมไม่กลัวอีกเลย
น้อง ๆ ที่ผ่าน เวที TH ERM Challenge ทั้งหมด ในรอบ Presentation ผมบอกเลย ว่า เขาเข้าใจวินาที ที่ผมพูดเสร้จแล้วเดินลงจากเวทีในวันนั้น หลังจากที่ปลดแอกความกลัวนั้นแล้ว ... ผมไม่เคยกลัวอะไรอีกเลย (นอกจากสิ่งลี้ลับ)
ปรมินทร์ เยาว์ยืนยง (พี่ิิชิด)
ปล. ขอบคุณน้อง ๆ ในคลิปอีกรอบ คุณเป็นแรงบันดาลใจของผม และของใครอีกหลายคน
ใกล้วันที่คุณสัญญาไว้กับกรรมการแล้ว พอถึงวันนั้น ผมหวังว่าคุณจะมาบอกพี่ชายคนนี้ว่า คุณทำได้แล้วตามสัญญา
นอกจากความกล้าของนักศึกษา ซึ่งควรกล้านทางที่ถูกและสร้างสรรค์ นักศึกษาทีมนี้ ยังเป็นผู้แบ่งปัน มีใจกว้าง เพราะว่า ถึงแม้นว่าเขาจะถูกบันทึก สิ่งที่หลายคนอาจะเรียกว่า "ความอับอาย" แต่จริง ๆ แล้ว ก่อนที่คุณจะตัดสินใจอะไร ให้คุณถามตัวเองก่อนว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต คุณเคยพูดต่อหน้าคนหลักร้อยด้วยภาษาอังกฤษหรือไม่ .. และเข้าเหล่านั้นเป็นคนที่คุณไม่รู้จักด้วย .. ที่ขอบพระคุณยิ่ง คือ อาจารย์ที่ปรึกษา ที่ท่านกรุณาอนุญาตให้เผยแพร่ เพื่อประโยชน์แก่คนรุ่นต่อไป ไม่ใช่ทุกคนที่มี "น้ำใจ" "แบ่งปัน" เกินกว่า "ความเป็นหน้าเป็นตา ซึ้งเป็นสิ่งสมมุติ"
การแข่งขัน TH ERM Challenge เรามุ่งหวังที่จะให้ ให้นักศึกษาได้แสดงศักยภาพของตน ข้อจำกัดของตน และเอาชนะมัน ผมพูดเสมอกับน้อง ๆ นักศึกษาในคลาสว่า
1. จงกล้าทำในสิ่งที่ถูก
2. จงหัดทำผิด แล้วอย่าเสียใจ แต่ให้เรียนรู้ที่จะทำให้ถูก
3. จงอย่าพอใจ หรือวางใจว่าดีแล้ว แต่ให้บอกว่า ทำดีกว่านี้ทำอย่างไร และเมื่อไหร่
4. จงใช้ประโยชน์ของความเยาว์วัย ให้ถูกเวลา
5. จงอย่าโตไปเป็นคนที่ไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเราไม่รู้อะไร
สิ่งนี้เป็นส่ิงที่ Active Learner หรือ ผมจะพูดว่า "ความหวังของประเทศไทย" จำเป็นจะต้องมี ผมเสียเวลาในชีวิต จากเรื่องความไม่กล้าในภาษาอังกฤษอยู่หลายปี คุณรู้ไหม หนังสือดีดีในโลกนี้ ร้อยละ 80 ถูกถ่ายทอดด้วยภาษาอังกฤษ คุณจะหาเงินได้มากกว่าเมื่อคุณใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับคนทั้งโลก ไม่ใช่ ภาษาไทยกับคน 70 ล้านคน คุณหนีไม่ได้ ก็พุ่งชน เวที TH ERM Challenge 2018 เป็นเวที ที่ กรรมการทุกท่าน เข้าใจว่า ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ เราไม่สนแกรมม่า เราสนว่าคุณสื่อสารดั่งใจที่คุณคิดได้หรือไม่ ไม่มีอะไรต้องกลัว
แล้วอย่ากลัวที่จะแพ้ บนสนามแข่งขันนี้ ให้เอาเวลาไปเตรียมตัว และกลัว "ความพ่ายแพ้ ในชีวิตจริง" ดีกว่า
เวลาผมดูคลิปนี้ ผมเห็นตัวเองเมื่อก่อน ผมเพิ่งมารู้ว่า เมื่อเทียบกับคนรุ่นพวกคุณนั้น ผมทั้งโง่กว่า ด้อยกว่า กล้าน้อยกว่า เพราะว่าปรมินทร์ในตอนที่อายุเท่าคุณนั้น ผมไม่กล้าแม้จะออกไปพูดบนเวที ด้วยภาษาอังกฤษแบบนี้
ตั้งแต่อายุ 26 เป็นต้นมา ผมต้องทำงานกับคนต่างประเทศมากขึ้น หลายสำเนียง ผมเรียนรู้จากการฝึกฝน ไม่เข้าใจผมถามลูกค้า ทั้งคนไทยและคนต่างชาติว่า ผมเข้าใจถูกไหม ผมไม่เห็นว่ามันน่าอับอายอย่างไร ผมหนี English Formal Public Speaking มานานจนวันหนึ่งที่ ผมจะต้องไปเป็น MC ในงานประชุมนานาชาติ มีคนกว่า 500 คน จากหลายสิบประเทศ ผมเพิ่งเอาชนะความกลัวที่แท้ทรูในวันนั้น หลังจากนั้น ผมไม่กลัวอีกเลย
น้อง ๆ ที่ผ่าน เวที TH ERM Challenge ทั้งหมด ในรอบ Presentation ผมบอกเลย ว่า เขาเข้าใจวินาที ที่ผมพูดเสร้จแล้วเดินลงจากเวทีในวันนั้น หลังจากที่ปลดแอกความกลัวนั้นแล้ว ... ผมไม่เคยกลัวอะไรอีกเลย (นอกจากสิ่งลี้ลับ)
ปรมินทร์ เยาว์ยืนยง (พี่ิิชิด)
ปล. ขอบคุณน้อง ๆ ในคลิปอีกรอบ คุณเป็นแรงบันดาลใจของผม และของใครอีกหลายคน
ใกล้วันที่คุณสัญญาไว้กับกรรมการแล้ว พอถึงวันนั้น ผมหวังว่าคุณจะมาบอกพี่ชายคนนี้ว่า คุณทำได้แล้วตามสัญญา